ของขลังเณรแอที่มีอยู่ตอนนี้ก็เป็นของที่ปลุกเสกไว้หลายสิบปีแล้ว ส่วนปัจจุบัน รับดูดวงชะตา ลงนะหน้าทอง ลงสาริกาลิ้นทอง สักลงยันต์ อะไรที่ผิดกฎหมายไม่ทำแล้ว
เล่นคุณไสย มนตร์ดำ ระวังของจะเข้าตัว
เหรียญมี 2 ด้าน การใช้น้ำมันพราย ของขลัง ก็มีข้อควรระวังเช่นกัน ต้องระวังของเข้าตัว โดยปกติเมื่อนำน้ำมันพรายไปป้ายใคร คนๆ นั้นจะคลั่งรัก มาหาเรา แต่หากอีกฝ่ายมีของดี มีเบี้ยแก้ ของป้องกันภัย หรือ ดวงเขาแข็งกว่า จะทำให้ของเข้าตัวคนที่นำไปป้าย เราจะคลั่งไปหาเขาแทน
เณรแอ เล่าว่า ตอนนี้ก็ยังมีคนมาขอน้ำมันพรายเรื่อยๆ แต่จะให้ใครก็ต้องพิจารณาให้ดี หากเห็นว่าท่าไม่ดี ก็ไม่อยากให้ เราไม่ใช่นักธุรกิจที่จะขายอย่างเดียว บางคนนำไปป้ายคนอื่น เพื่อหวังเงินหวังทองจะไม่ขายน้ำมันพรายให้ มันบาป
แก้คุณไสย คนโดนของ
ความเชื่อทางไสยศาสตร์ คนที่โดนของสังเกตไม่ยาก บางคนโดนของไปหลงเสน่ห์ มนตร์ขลัง หน้าตาหมองคล้ำ ธุรกิจการงานไม่ดี พฤติกรรมเปลี่ยนไป จากรักเมียก็ไม่รักเมีย ต้องให้ช่วยถอน ช่วยแก้ไข บางคนโดนน้ำมนต์ราดก็ดิ้นพล่านร้องโวยวาย เหมือนโดนน้ำร้อน คนที่โดนน้ำมันพราย ส่วนมากไม่รู้ตัว คนรอบข้างเห็นผิดสังเกตเลยพามาแก้คุณไสย
ส่วนมากคนที่มาแก้จะเป็นผู้ชาย โดนผู้หญิงทำเสน่ห์ใส่ เอาน้ำมันพรายไปป้ายให้สามีคนรักกลับคืนมา เมื่อก่อนจะเป็นคนรวยมีบ้านเล็กบ้านน้อย แต่ตอนนี้มีทุกอาชีพ บางคนไปซื้อน้ำมันจากเพจ ของแท้บ้าง ของปลอมบ้าง ก็มาขอให้ช่วยแก้
ไสยศาสตร์ สู่ วิทยาศาสตร์
ไสยศาสตร์ มักถูกหักล้างด้วยวิทยาศาสตร์ เมื่อถามเกี่ยวกับเรื่องของ "น้ำมันพราย" รศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ให้ข้อมูลว่า ในทางวิทยาศาสตร์คงยังไม่มีสารเคมีอะไรที่เรียกได้ว่าเป็น น้ำมันพราย เมื่อนำมาฉีดโดนตัวคนแล้วจะทำให้คนหลงรักหลงชอบตามความเชื่อในเชิงของไสยศาสตร์ แต่ในทางวิทยาศาสตร์สามารถอธิบายเป็นปรากฏการณ์ของ "ฟีโรโมน" ได้
ฟีโรโมน คืออะไร? .. ฟีโรโมน จะพบได้ในสิ่งมีชีวิตอย่างเช่นพวกสัตว์ ซึ่งสัตว์สามารถส่งสัญญาณถึงกันผ่านสารเคมีที่ออกมา บางครั้งก็จะเป็นกลิ่น ทิ้งกลิ่นหอมและกลิ่นเหม็น มีปรากฏในสัตว์หลายชนิดที่ใช้ในการส่งสัญญาณ ส่งเป็นข้อมูล แม้กระทั่งดึงดูดเพศตรงกันข้ามได้ด้วย
ฟีโรโมนใน "มนุษย์"
มีการค้นหากันมานานว่าจริงๆ แล้ว Human Pheromone หรือ ฟีโรโมนของมนุษย์มีจริงหรือไม่ ที่ผ่านมามีการทดลองเรื่องนี้เยอะมาก ในบางครั้งพบว่ากลิ่นของคนกันเองก็มีผลต่อความรู้สึกของฝ่ายตรงข้ามได้
แม้กระทั่งมีการทดลองว่า ผู้หญิง ที่มีประจำเดือน กลิ่นตัวจะเหนี่ยวนำให้ผู้หญิงคนอื่นๆ ที่อยู่ในห้องพักเดียวกัน มีรอบของประจำเดือนที่เปลี่ยนแปลงไปได้ รวมไปถึงการทดลอง กลิ่นตัวของผู้หญิงที่อยู่ในช่วงตกไข่อาจทำให้ เทสโทสเตอโรน (Testosterone) หรือ ฮอร์โมนเพศชาย เพิ่มสูงขึ้นได้
แต่การที่จะระบุว่าเป็น "ฟีโรโมน" ได้นั้น จะต้องแยกแยะให้ได้ก่อนว่าเป็นสารเคมีตัวไหน อย่างไรบ้าง ซึ่งปัจจุบันยังมีไม่ความสามารถในการแยกแยะได้ ทำให้ภาพรวมเป็นเพียงความเชื่อว่า กลิ่นเหงื่อของคนดึงดูดเพศตรงข้ามได้ แต่ก็ยังไม่มีงานวิจัยชี้ชัด
ฟีโรโมนของ "สัตว์"
ในส่วนของสัตว์จะหลากหลายมาก อย่างเช่น แมลงจะมีกลไกในการปล่อยสารแตกต่างจากสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม อาจจะเคยได้ยินว่าแมลงจะปล่อยสารออกไปเป็นกลุ่มแก๊ส เช่น แมลงตด บางครั้งกลิ่นจะไปได้ไกลค่อนข้างมากหลายร้อยเมตร
ส่วนสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม เช่น ชะมด จะเอาสารตรงบริเวณก้น อวัยวะสืบพันธุ์ที่มีต่อมน้ำมัน ซึ่งน้ำมันพวกนี้มีลักษณะเป็นน้ำมันหอมระเหย โครงสร้างในเชิงเคมีจะต่างกันมาก ไม่สามารถนำมาใช้ข้ามกันระหว่างสัตว์ได้ ซึ่งแน่นอนว่า จะนำมาใช้กับคนไม่ได้ ซึ่งน้ำหอมที่ใช้กันในปัจจุบันบางครั้งนำชะมดเช็ดมาผสมด้วยก็จะมีกลิ่นหอม แต่ไม่ใช่ว่าจะดึงดูดเพศตรงข้ามได้
ในเชิงวิทยาศาสตร์ยังไม่สามารถแยกแยะกลุ่มของสารได้ว่า สารตัวใดเป็นฟีโรโมนของคน เป็นคำถามที่ค่อนข้างใหญ่ว่า ตกลงแล้วมนุษย์เรามีฟีโรโมนเหมือนสัตว์อื่นหรือไม่ แต่ในภาพรวมนั้น กลิ่นมีผลต่อคนอื่นได้แน่ๆ เพียงแต่ว่าเป็นกรณีไป
น้ำหอมฟีโรโมน ขายเกลื่อนเน็ต
รศ.ดร.เจษฎา กล่าวว่า ส่วนตัวไม่ทราบว่า น้ำหอมฟีโนโมนมีส่วนผสมของอะไร เพราะส่วนมากเป็นการตั้งกันขึ้นมาเองว่ามีส่วนผสมของฟีโรโมน แต่หากมีการทำกันอย่างจริงจัง เช่น มีการนำเหงื่อของคนมาสังเคราะห์แล้วใส่ในน้ำหอมก็อาจจะเป็นไปได้ แต่ยังไม่มีรายงานทางวิทยาศาสตร์ที่บอกว่าจะสามารถดึงดูดคนขึ้นมาได้จริงๆ
ดังนั้น ตนมองว่าเป็นการหลอกขายมากกว่า จริงๆ เป็นแค่กลิ่นหอมเท่านั้น ซึ่งกลิ่นหอมบางอย่างอาจจะเป็นกลิ่นที่ผู้หญิง หรือ ผู้ชายส่วนใหญ่ชอบดม แต่ไม่ใช่ว่าพอดมแล้วจะเหมือนกับน้ำมันพรายที่ดึงดูดฝ่ายตรงกันข้ามเข้ามาทันที
เมื่อถามถึง "น้ำมันพราย" ส่วนตัวไม่เชื่อเรื่องพวกนี้ เพราะหากมีเรื่องพวกนี้อยู่จริง ทางด้านวิทยาศาสตร์ต้องพยายามค้นหาและเลียนแบบแล้ว และเชื่อว่าคงมีบริษัททางการค้ามากมายที่พยายามทำสินค้าชนิดนี้ขึ้นมา จึงคิดว่าเป็นแค่ความเชื่อมากกว่า
การสะกดจิตให้คนมารัก
ไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็ต้องเอากล ไม่ได้ด้วยมนตร์ก็ต้องเอาด้วยคาถา เป็นไปได้ไหมที่จะสะกดจิตคนให้เกิดความรักขึ้นมาแบบทันทีทันใด
รศ.ดร.เจษฎา กล่าวว่า การสะกดจิตที่เห็นในหนังไม่ใช่ว่าจะทำกันได้ง่ายๆ เรื่องของการใช้จิตวิทยาในการชักจูงใจ ค่อยๆ โน้มน้าวจิตใจของคนสามารถทำได้ แต่การสะกดจิตคนแบบกะทันหันไม่สามารถทำได้ นักจิตวิทยาเองก็บอกว่า คนไข้แต่ละคนก็มีการตอบสนองต่อการพยายามสะกดจิตแตกต่างกัน
ส่วนตัวเชื่อว่า คนเราหากจะรักกันได้ เป็นเพราะตัวของเราเองมากกว่า หรือสิ่งดีๆ ที่เรามีให้กันมากกว่าเครื่องมือพวกนี้.
ผู้เขียน : J. Mashare
กราฟิก : Jutaphun Sooksamphun
August 19, 2020 at 08:02AM
https://ift.tt/2FBZd70
คุณไสยกับวิทยาศาสตร์ "น้ำมันพราย 2020" ตกอยู่ในห้วงรัก หรือ โดนคาถามนตร์ดำ - ไทยรัฐ
https://ift.tt/2wcicAM
Bagikan Berita Ini
0 Response to "คุณไสยกับวิทยาศาสตร์ "น้ำมันพราย 2020" ตกอยู่ในห้วงรัก หรือ โดนคาถามนตร์ดำ - ไทยรัฐ"
Post a Comment